วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

GMM 2008


เป้าหมายปี 2551 : 8,000 ล้านบาท
lGMM แบ่งโครงสร้างธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มเพลง ในการดูแลของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และกลุ่มสื่อ ในนาม จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ทั้ง 2 ส่วนจะร่วมกันสร้างรายได้ 8,000 ล้านบาทให้กับองค์กร ในสัดส่วน 56% ต่อ 44%
lโมเดลธุรกิจใหม่ Total Music Business ซึ่งประกอบด้วย Singing, Listening & Watching Business, Segment Market และ Subsidize Marketing
2.1 Listening Business หมายถึงการสร้างรายได้จากการที่เพลงถูกนำไปเปิดตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งสถานีวิทยุ ร้านอาหาร โรงพยาบาล สายการบิน และการนำเพลงไปใช้ในรูปแบบมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง เช่น การบันเดิลลงโทรศัพท์มือถือ ไอพอต หรือขายตรงบนอินเทอร์เน็ต
2.2 Watching Business เป็นการสร้างรายได้จากโชว์บิซ ที่สามารถสร้างรายได้ต่อยอดไปในอีกหลายช่องทาง ทั้งการจำหน่ายบัตร วีซีดี ดีวีดี อินเทอร์เน็ต เคเบิลทีวี
2.3 Singing Business เป็นการสร้างรายได้จากคาราโอเกะ
2.4 Segment Marketing มีการปรับกลุ่มเพลงจากเดิมเป็นกลุ่มสตริง และลูกทุ่ง เปลี่ยนเป็น 6 กลุ่มหลักที่สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคที่เป็นไปตามรสนิยมการฟังเพลง ประกอบด้วย Teen Idol, Pop Idol, Rock, Vintages, Niche Market และ Country
โมเดล Total Music Business เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 2549 เคยเป็นสัดส่วนรายได้ 40% ของธุรกิจเพลง ที่ยังเป็นรองรายได้จาก Physical ถึงราว 20% แต่วันนี้ Total Music Business กลับสามารถสร้างรายได้ครึ่งหนึ่งให้กับธุรกิจเพลง 4,000 ล้านบาทของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่


Digital Music
แกรมมี่ให้ภาพเทรนด์ของดิจิทัล มิวสิกไทยว่านับจากปี 51 นี้จะโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการจัดเก็บรายได้จากสินค้าและบริการที่ถูกหมายหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรายได้มาจาก 2 กลุ่มหลักคือ โมบายซึ่งจะยังคงมีส่วนแบ่งประมาณ 90% และที่เหลือเป็นอินเทอร์เน็ต
โดยคาดการณ์ว่ามือถือจะเพิ่มขึ้น 15% หรือ 40 กว่าล้านเลขหมายจาก35ล้านในปี 49 ส่วนของอินเทอร์เน็ตคาดการณ์ว่าจะมียอด ผู้ใช้ประมาณ10 ล้านคน โตกว่าปี 49 ประมาณ 10%เทรนด์ดังกล่าวนี้สอดคล้องกับเทรนด์ของเอเชีย โดยแกรมมี่มีนโยบาย
lด้านโมบาย โอกาสทางการตลาดแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ 1.กลุ่มที่ใช้บริการของ GMMD สม่ำเสมออยู่แล้วซึ่งมีอยู่ประมาณ 5 ล้านเลขหมาย จากจำนวนผู้สามารถใช้บริการเสริมได้ 12 ล้านเลขหมายของเครื่อง 40 ล้านเลขหมาย กลุ่มนี้สามารถกระตุ้นให้ใช้เพิ่มขึ้นได้ 2.กลุ่มที่ยังไม่เคยใช้บริการของ GMMD อีก 7 ล้านเลขหมาย ต้องสร้างการทดลองใช้ และ 3.กลุ่มในอนาคตซึ่งจะโตขึ้นเรื่อยๆ คือผู้ใช้โทรศัพท์ที่จะอัพเกรดเครื่องมาใช้บริการเสริมได้หรืออีกมากกว่า 23 ล้านเลขหมาย
lด้านอินเทอร์เน็ต ทั้งราคาคอมพิวเตอร์และชั่วโมงอินเทอร์เน็ตที่ถูกลง และการที่คนรุ่นใหม่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นมากขึ้น จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดดิจิทัล มิวสิกเติบโตขึ้น นอกจากนั้นยังพบว่าคนไทยนิยมเว็บบันเทิงมากที่สุด ปัจจุบันก็มีส่วนแบ่งในตลาดดิจิทัล มิวสิกสูงที่สุดด้วย กลยุทธ์ในส่วนของอินเทอร์เน็ตมีทั้งการทำการตลาดกับเจ้าตลาดด้าน PC เช่น HP ทำการ Bundle โปรแกรม IKEY เวอร์ชันที่สามารถดาวน์โหลดและร้องคาราโอเกะให้บริการ Singing Online เป็นรายแรก ซึ่ง ใช้ง่ายและสะดวก และมีการสร้างพันธมิตรเช่น ท็อปไฟว์เว็บบันเทิงได้แก่ sanook.com, pantip.com, kapook.com, thai2hand.com, dek-d.com จะเพิ่มเติมอีกในอนาคต เพิ่มช่องทางการขายคอนเทนต์ โดยการทำตลาดร่วมกัน ทั้งโปรโมรชั่นพิเศษ หรือนำคอนเทนต์ของแกรมมี่ไปดิสเพลย์อยู่ในเว็บต่างๆ เหล่านี้ เป็นเสมือนการวาง Outlet ในที่ซึ่ง Traffic ดี แล้วจัดแบ่งรายได้ร่วมกัน
lDevice หรือเครื่องมือ ได้แก่ HP, Nokia, Motorola, Samsung, Samart I-Mobile, iPod ซึ่งล้วนมียอดจำหน่ายสูงและลูกค้ามักหมุนเวียนเข้าช็อปหรือศูนย์เป็นประจำเพื่อติดตามสินค้าใหม่ๆ หรืออุปกรณ์เสริม GMMD จะนำคอนเทนต์ไป Bundling เข้ากับกลุ่มนี้เพื่อขยายช่องทางการขาย 4.กลุ่มApplication หรือ Platform คือเจ้าของเทคโนโลยีหรือเจ้าของตัวแทนแพลตฟอร์มตัวแทนหลักในประเทศไทย ได้แก่บริษัทเตียวฮง ไพศาล, TRUE เพื่อสร้างบริการใหม่ๆ ดังเช่น Karaoke Online และ Music Game ซึ่งใกล้จะเปิดตัวในเร็ววันนี้
lDistributor คือ Samart I-Mobile Shop ของกลุ่มสามารถ ซึ่งเป็นเครือข่ายจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ จะให้บริการดาวน์โหลดเพลงลงบนอุปกรณ์ต่างๆ

ไม่มีความคิดเห็น: